ข่าว

9 มิถุนายน 2023

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เวียดนามมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจระดับโลกที่โดดเด่น ในปี 2565 GDP ขยายตัว 8.02% นับเป็นอัตราการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 25 ปี

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้การค้าต่างประเทศของเวียดนามประสบปัญหาการลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ข้อมูลเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงอย่างผันผวน เมื่อเร็วๆ นี้ ข้อมูลที่เผยแพร่โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนามเปิดเผยว่าในเดือนพฤษภาคม การส่งออกของเวียดนามลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นับเป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน การนำเข้ายังลดลง 18.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ในช่วงห้าเดือนแรกของปีนี้ การส่งออกของเวียดนามลดลง 11.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี คิดเป็นมูลค่า 136.17 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่การนำเข้าลดลง 17.9% เหลือ 126.37 พันล้านดอลลาร์

ที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น คลื่นความร้อนล่าสุดได้โจมตีเมืองหลวงฮานอย โดยอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 44°C อุณหภูมิที่สูง ประกอบกับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากผู้อยู่อาศัยและการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่ลดลง ส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างในสวนอุตสาหกรรมทั่วเวียดนามตอนใต้

เวียดนามเข้าสู่วิกฤตพลังงานเนื่องจากบริษัท 11,000 แห่งถูกบังคับให้ลดการใช้ไฟฟ้า

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา บางภูมิภาคของเวียดนามเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงทำลายสถิติ ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้น และส่งผลให้หลายเมืองต้องลดการใช้ไฟฟ้าสาธารณะ สำนักงานรัฐบาลเวียดนามได้รับการกระตุ้นให้ลดการใช้ไฟฟ้าลงสิบเปอร์เซ็นต์

ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตกำลังเปลี่ยนการผลิตของตนไปเป็นช่วงที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วนเพื่อรักษาการทำงานของระบบไฟฟ้าแห่งชาติของเวียดนาม จากข้อมูลของบริษัท Southern Power Corporation of Vietnam (EVNNPC) ระบุว่า หลายภูมิภาค รวมถึงจังหวัด Bac Giang และ Bac Ninh กำลังเผชิญกับการตัดไฟชั่วคราว ซึ่งส่งผลกระทบต่อสวนอุตสาหกรรมบางแห่ง ภูมิภาคเหล่านี้เป็นที่ตั้งของบริษัทต่างชาติรายใหญ่ เช่น Foxconn, Samsung และ Canon

โรงงานของ Canon ในจังหวัด Bac Ninh ประสบปัญหาไฟฟ้าดับแล้วตั้งแต่เวลา 8.00 น. ของวันจันทร์ และคาดว่าจะคงอยู่จนถึง 05.00 น. ของวันอังคาร ก่อนที่ไฟฟ้าจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตข้ามชาติอื่นๆ ยังไม่ตอบคำถามของสื่อ

บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Southern Power Corporation คุณสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับการไฟฟ้าดับแบบหมุนเวียนในภูมิภาคต่างๆ ในสัปดาห์นี้ได้เช่นกัน หลายพื้นที่จะเผชิญกับการตัดไฟตั้งแต่ไม่กี่ชั่วโมงไปจนถึงตลอดทั้งวัน

เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาของเวียดนามเตือนว่าอุณหภูมิสูงอาจคงอยู่จนถึงเดือนมิถุนายน บริษัทสาธารณูปโภคของรัฐ Vietnam Electricity (EVN) ได้แสดงความกังวลว่าโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศจะเผชิญกับแรงกดดันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หากไม่มีการอนุรักษ์ไฟฟ้า กริดจะตกอยู่ในความเสี่ยง

จากข้อมูลของหน่วยงานกำกับดูแลการไฟฟ้าเวียดนาม ปัจจุบันบริษัทกว่า 11,000 แห่งในเวียดนามถูกบังคับให้ลดการใช้ไฟฟ้าให้มากที่สุด

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามเสนอมาตรการป้องกันไฟฟ้าดับ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตามรายงานของรอยเตอร์ การตัดไฟที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าในเวียดนาม ทำให้หอการค้ายุโรปในเวียดนามเรียกร้องให้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามดำเนินการทันทีเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน

Jean-Jacques Bouflet รองประธานหอการค้ายุโรปในเวียดนามกล่าวว่า "กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามควรใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อป้องกันความเสียหายต่อชื่อเสียงของประเทศในฐานะศูนย์กลางการผลิตระดับโลกที่เชื่อถือได้ ภาวะไฟฟ้าดับได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางอุตสาหกรรมอย่างรุนแรง”

สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต ไฟฟ้าดับหมายถึงการหยุดการผลิตเป็นหลัก สิ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมหงุดหงิดมากที่สุดก็คือ การตัดไฟในเวียดนามไม่ได้เป็นไปตามกำหนดเวลาเสมอไป การเกิดไฟฟ้าดับโดยไม่คาดคิดบ่อยครั้งทำให้เกิดกระแสตอบรับจากภาคธุรกิจ

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน หอการค้ายุโรป (EuroCham) ได้ส่งจดหมายถึงกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้มาตรการที่รวดเร็วเพื่อแก้ไขสถานการณ์การขาดแคลนพลังงาน

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 2 คน ระบุว่า สวนอุตสาหกรรมบางแห่งในจังหวัดบั๊กนิง และจังหวัดบั๊กซาง ทางตอนเหนือของเวียดนาม ประสบปัญหาไฟฟ้าดับ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่า “เราจะทำงานร่วมกับ Vietnam Electricity Corporation ในวันนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์และมาตรการที่เป็นไปได้ในการบรรเทาผลกระทบ”

คลื่นความร้อนสูงเกิน 40°C สังเกตได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลกตั้งแต่ต้นปีนี้ เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วเกิดขึ้นบ่อยครั้งในส่วนต่างๆ ของโลก สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหราชอาณาจักรระบุว่า เนื่องจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นและการที่คาดว่าจะเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญในปลายปีนี้ แนวโน้มที่อุณหภูมิโลกจะเกิน 1.5°C ก็จะเพิ่มขึ้น ฤดูร้อนนี้อาจจะร้อนกว่าที่เคย

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้เพิ่งเผชิญกับสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูง จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาเมื่อเดือนเมษายน อุณหภูมิสูงสุดในจังหวัดลำปางภาคเหนือแตะระดับเกือบ 45°C

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม เวียดนามมีอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 44.1°C เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม หลายพื้นที่ของอินเดีย รวมถึงเมืองหลวงอย่างนิวเดลี ต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงถึงหรือเกิน 45°C ในพื้นที่ทางตอนเหนือ

ภูมิภาคยุโรปหลายแห่งยังได้รับผลกระทบจากภัยแล้งที่รุนแรงและฝนตกหนักเช่นกัน ข้อมูลจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสเปนแสดงให้เห็นว่าประเทศเผชิญกับความแห้งแล้งและความร้อนในระดับสูงสุดในเดือนเมษายนนับตั้งแต่ปี 2504 ภูมิภาคเอมีเลีย-โรมัญญาในอิตาลีต้องเผชิญกับฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม

สภาพอากาศสุดขั้วส่งผลให้มีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น การใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงอากาศร้อน ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดแคลนพลังงานได้